Top 10+ selected

ร้านเล็กแต่หัวใจใหญ่ บริหารด้วยหัวใจ ใส่ใจทุกรายละเอียด – Manoi  สาขาชุมพร ถ้าจะมีร้านใดที่แสดงให้เห็นว่า “หัวใจในการทำธุรกิจ” สำคัญไม่แพ้ “ทำเลที่ตั้ง” สาขาชุมพรคือคำตอบ คุณปิ๋ว ผู้บริหารหญิงคนสวยและเก่งแห่งสาขานี้ เป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจขายเครื่องเขียนแบบเรียน, ทำสวน ตลอดจนธุรกิจแฟรนไชส์เธอเลือก “มาโนอิ” อย่างพิถีพิถัน เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพและแนวคิดของแบรนด์ที่เน้นสุขภาพ และใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการทำงานของเธอ หัวใจของร้านคือ “คน” เบื้องหลังความสำเร็จของร้านนี้ คือความรักและความใส่ใจที่คุณปิ๋วมีต่อน้อง ๆ พนักงานทุกคน เธอให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ความเข้าใจ และการสนับสนุน ทำให้น้อง ๆ มีแรงบันดาลใจในการทำงาน และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ยิ้มแย้ม พร้อมบริการด้วยหัวใจ ร้านนี้ไม่ได้ขายแค่ชา แต่ขาย “บรรยากาศและความสุข”  การตกแต่งร้านคืออีกหนึ่งจุดแข็งของสาขานี้ – ทุกมุมในร้านถูกออกแบบมาอย่างน่ารัก ถ่ายรูปได้ทุกมุม – เน้นความสะอาด ความเรียบร้อย และความสบายใจของลูกค้า– ลูกค้าหลักเป็นนักเรียนจากโรงเรียนใกล้เคียงและคนในชุมชนที่กลายมาเป็นลูกค้าประจำ นอกจากนี้ ยังมีการต่อยอดจากแฟรนไชส์เครื่องดื่มไปสู่การพัฒนาอาหารว่าง ขนมปัง และอาหารคาว ทั้งในรูปแบบอาหารจานเดียวและอาหารฟิวชัน เพื่อสร้างความหลากหลาย และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในพื้นที่ ความสัมพันธ์กับแบรนด์ สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณปิ๋วเลือกและวางใจแบรนด์มาโนอิอย่างมั่นใจ คือการเห็นถึง “การพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง” ของแบรนด์ ทั้งในด้านคุณภาพสินค้า การสื่อสาร การสนับสนุนแฟรนไชส์ และการไม่หยุดนิ่ง กับความสำเร็จเดิม ๆ มาโนอิไม่เพียงแค่ขายแฟรนไชส์ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์กับผู้ประกอบการในฐานะ “ครอบครัวเดียวกัน” ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของคุณปิ๋วที่มองว่าสาขาของตนไม่ใช่เพียงร้านค้า แต่เป็น ส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่สามารถพูดคุย ให้คำแนะนำ และยอมรับการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับบริบทของ แต่ละพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่นและจริงใจ การปรับตัวในวันที่ไม่ง่าย เมื่อประสบกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาและกำลังซื้อที่ลดลง คุณปิ๋วไม่ยอมแพ้ แต่กลับมองเป็นโอกาสในการ “ปรับกลยุทธ์” – ปรับเมนูและราคาให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ – เพิ่มสินค้าควบคู่ เช่น อาหารว่าง เพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิล – พัฒนาโปรโมชั่นให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่อย่างแท้จริง – สะสมแต้มแลกของรางวัล Manoi สาขาชุมพร ไม่ใช่แค่ร้านขายชา แต่เป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่น ความตั้งใจ และความใส่ใจทุกแก้วที่เสิร์ฟ เราขอแสดงความยินดีกับคุณปิ๋วและน้อง ๆ พนักงานทุกคน ที่ร่วมกันทำให้ร้านนี้เป็นหนึ่งใน Manoi Top 10+ Selected ได้อย่างภาคภูมิ

ความสำเร็จจากการวางแผนอย่างมีวิสัยทัศน์ – Manoi สาขาท่าม่วง ถ้าหากความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชส์เกิดจากแค่การ “เปิดร้าน” คงมีหลายร้านที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมองเห็น “โอกาส” และวางแผนล่วงหน้าอย่างลึกซึ้งเหมือนกับ คุณตั้มและคุณเปิ้ล เจ้าของ Manoi สาขาท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ที่คว้ารางวัล Manoi Top 10+ Selected จากความสามารถในการวางกลยุทธ์ระยะยาวได้อย่างน่าชื่นชม ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน คุณตั้มและคุณเปิ้ลไม่ได้มองหาเพียงร้านเครื่องดื่มแฟรนไชส์ทั่วไป แต่พวกเขาใช้วิธี “ค้นหาอย่างมีเป้าหมาย” จนเจอชื่อแบรนด์ “Manoi” จากการค้นหาใน Google ที่ติดอันดับหนึ่งในสิบแฟรนไชส์เครื่องดื่มขายดี ด้วยคำถามง่าย ๆ ที่นำไปสู่คำตอบสำคัญ “อะไรคือแบรนด์ที่แตกต่าง และขายได้ในระยะยาว?” Manoi คือคำตอบนั้น ด้วยจุดยืนเรื่องสุขภาพและความใส่ใจในทุกแก้วที่เสิร์ฟ สามารถเลือกใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ไม่มีน้ำตาลไฮฟรุกโตส และไม่มีไขมันทรานส์ ทั้งยังมีเมนูใหม่ ๆ ให้ตามทุกเทศกาล ซึ่งสะท้อนถึงการคิดอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนตลอดปี จึงเป็นธุรกิจที่ไม่หยุดแค่ฤดูกาล และที่สำคัญคือ การเลือกทำเลอย่างชาญฉลาด พวกเขาเลือกเปิดร้านตรง ท่ารถตู้ ท่าม่วง-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้คนสัญจรจำนวนมากทุกวัน ทั้งขาประจำและขาจร ส่งผลให้ยอดขายสม่ำเสมอและคืนทุนภายในระยะเวลาไม่นาน ความสำเร็จที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือ กว่า 80% ของลูกค้าที่เคยเป็น “ขาจร” กลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำ นั่นสะท้อนถึงทั้งคุณภาพของสินค้า ความอร่อยที่คงเส้นคงวา และความประทับใจในบริการที่อบอุ่นจริงใจ เดิมที คุณเปิ้ล ภรรยาของคุณตั้มเป็นคนลงมือชงขายเองทุกวัน ด้วยความทุ่มเทเต็มร้อย แต่เมื่อคลอดลูกและต้องดูแลน้องตัวน้อยอยู่บ้าน เธอสามารถส่งต่อหน้าที่ให้พนักงานได้อย่างมั่นใจ เพราะมาตรฐานของ Manoi ที่ชัดเจน ช่วยให้ “ใครชงก็อร่อยเหมือนเดิม” ไม่ว่าลูกค้าจะมาเมื่อไร ก็มั่นใจได้ในรสชาติและคุณภาพที่ไม่เปลี่ยน วันนี้ Manoi สาขาท่าม่วง เดินทางเข้าสู่ปีที่ 3 พร้อมเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าประจำ และความสุขของเจ้าของร้านที่ไม่ใช่แค่เรื่องของผลกำไร แต่คือ ความภูมิใจที่ได้เลือกสิ่งที่ใช่ตั้งแต่วันแรก Manoi จึงไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่คือ “พันธมิตรธุรกิจ” ที่คิดถึงความยั่งยืนไปพร้อมกัน และนี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์จากรางวัล Manoi Top 10+ Selected ว่าใครก็ตามที่วางแผนอย่างมีวิสัยทัศน์ ร่วมกับแบรนด์ที่มีหัวใจของสุขภาพและความจริงใจ ก็สามารถสร้างธุรกิจที่มั่นคง และส่งต่อความสุขให้ทั้งครอบครัวและลูกค้าได้อย่างแท้จริง

สองพี่น้องใจเกินร้อย กับสาขาสุดฮ็อตในเมืองสามอ่าว – Manoi สาขาเมืองประจวบ ในบรรยากาศคึกคักของ “ตลาดริมทางรถไฟเมืองประจวบ” มีร้านเครื่องดื่มสุขภาพแห่งหนึ่งที่โดดเด่นทั้งรสชาติและบริการ จนกลายเป็นจุดหมายประจำของทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ นั่นคือ Manoi สาขาเมืองประจวบ ที่บริหารโดยคุณจิ๊บและคุณแจง สองสาวพี่น้องคนสวยและมากความสามารถ ผู้พลิกบทบาทจากมนุษย์เงินเดือนในเมืองกรุง กลับมาใช้ชีวิตในบ้านเกิด พร้อมสร้างความมั่นคงด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง หลังจากสั่งสมประสบการณ์ในกรุงเทพฯ กว่า 6 ปี คุณแจงเริ่มคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว พี่สาว และหลาน ๆ ประกอบกับมองเห็นศักยภาพของเมืองประจวบที่กำลังเติบโต จึงตัดสินใจกลับบ้านเพื่อเปิดกิจการหลากหลายภายใต้ตลาดรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นร้านกิ๊ฟช็อป ร้านขายบรรจุภัณฑ์ หรืออาหารสัตว์ แต่หนึ่งในร้านที่ทั้งคู่ทุ่มเทเป็นพิเศษ และภาคภูมิใจ คือ ร้าน Manoi ที่เธอเลือกอย่างรอบคอบผ่านการตระเวนชิม พูดคุยกับเจ้าของแฟรนไชส์ที่เคยซื้อแบรนด์มาโนอิ ไปขาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง คุณภาพของสินค้า และความสามารถในการบริหาร ตลอดจนการให้บริการหลังการขายของแบรนด์ ก่อนจะตัดสินใจลงทุน ภายในเวลาไม่ถึงปี ทั้งสองได้ขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น รองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่การรักษามาตรฐานรสชาติ, ความสะอาด และการให้บริการด้วยรอยยิ้ม ที่มาพร้อมบุคลิกเปิดเผย จริงใจ เป็นกันเอง จนกลายเป็นที่รักของลูกค้าทุกวัย แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากร้านชานมรายใหม่ ที่ทยอยเปิดขึ้นในย่านเดียวกันมากกว่าสิบร้าน แต่คุณจิ๊บและคุณแจงยังคงมั่นใจในคุณภาพของมาโนอิ ที่คัดสรรวัตถุดิบที่ดีและใส่ใจสุขภาพอย่างแท้จริง รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และความใส่ใจของทั้งสองพี่น้อง คือ “หัวใจหลัก” ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนอย่างเหนียวแน่น ความสำเร็จของพวกเธอได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในปี 2025 เมื่อสาขาเมืองประจวบคว้ารางวัล Franchee Award อันดับ 1 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Manoi Top 10+ Selected ซึ่งเป็นการยืนยันว่า ความตั้งใจ ความทุ่มเท และความจริงใจในการทำธุรกิจของทั้งสองพี่น้องสามารถผลักดันให้แบรนด์เติบโตได้อย่างแข็งแรง แม้จะเป็นพื้นที่ต่างจังหวัดก็ตาม Manoi เมืองประจวบ จึงไม่ใช่แค่ร้านเครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นตัวอย่างของการกลับบ้านอย่างมีเป้าหมายใช้ชีวิตใกล้ครอบครัว และสร้างอาชีพด้วยความรักและศรัทธาในสิ่งที่ทำอย่างแท้จริง ความสำเร็จของ Manoi สาขาเมืองประจวบ ในวันนี้ไม่ได้เกิดจากความมุ่งมั่นของสองพี่น้องเพียงลำพัง หากแต่ยังได้รับพลังใจและแรงสนับสนุนอย่างอบอุ่นจากครอบครัวที่อยู่เคียงข้างในทุกก้าวของการเริ่มต้น และการเติบโต รวมถึงลูกค้าชาวประจวบและผู้คนในชุมชนที่ให้การต้อนรับและสนับสนุนร้านด้วยความรัก ความผูกพัน และความภักดีเสมอมา สองพี่น้องจึงอยากขอบคุณจากใจถึงครอบครัวที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จและลูกค้าทุกท่านที่ไม่เพียงเป็นผู้สนับสนุนแต่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความภาคภูมิใจของแบรนด์มาโนอิในเมืองประจวบแห่งนี้

จาก Top Land สู่ Top 10 เมื่อวิสัยทัศน์ของเจ้าของห้าง เชื่อมต่อกับเครื่องดื่มที่ใส่ใจสุขภาพ” อีกหนึ่งสาขาที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร — Manoi สาขาท็อปแลนด์ พิษณุโลก มองเห็นโอกาสจากพื้นที่…สร้างคุณค่าอย่างมีกลยุทธ์  เจ้าของห้างได้มองเห็นศักยภาพของพื้นที่ภายในห้าง และตัดสินใจเลือกแบรนด์ Manoi มาเปิดให้บริการบนชั้นบนสุดของห้าง ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งศูนย์อาหารและสวนสนุกสำหรับเด็ก ๆ จึงเป็นทำเลที่มีเด็กและครอบครัวแวะเวียนตลอดทั้งวัน และที่สำคัญเป็นจุดหน้าบันไดเลื่อน ซึ่งเป็นทางผ่านหลักที่ลูกค้าทุกกลุ่มต้องเดินผ่าน เลือกแบรนด์ที่ “ขายง่าย + ใส่ใจสุขภาพ”  Manoi มีจุดแข็งด้านสูตรเครื่องดื่มที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังตอบโจทย์ลูกค้าทุกวัย โดยเฉพาะเมนูทางเลือกสุขภาพที่ไม่ใส่น้ำตาลไฮฟรุกโตส และไม่มีไขมันทรานส์  ทำให้แบรนด์นี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบริหารพื้นที่ในยุคใหม่ที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ เบื้องหลังความสำเร็จ คือการบริหารแบบมืออาชีพ ภายใต้การดูแลของคุณยุ้ย ผู้จัดการสาขา ที่ผ่านการเรียนสูตรโดยตรงจากทีม Manoi และถ่ายทอดความรู้ให้กับทีมงานได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้รสชาติของเครื่องดื่มทุกแก้วได้มาตรฐานตรงตามสูตร จนลูกค้าหลายคนกลายเป็นแฟนประจำ และกล่าวชื่นชมเรื่อง “รสชาติคงที่และคุณภาพดีทุกครั้งที่มา” ซึ่งไม่แพ้กับการให้บริการที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่ ชงด้วยความใส่ใจทุก ๆ แก้วของพนักงาน ทำเลห้างใจกลางเมือง + ที่พัก ร้านอาหาร + ที่จัดประชุมสัมมนา ห้างท็อปแลนด์ พิษณุโลก เป็นห้างเก่าแก่ที่อยู่กลางใจเมือง และยังมีโรงแรมเชื่อมต่อพื้นที่กัน ทำให้มีลูกค้าหลากหลาย ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว เป็นสถานที่ที่ได้รับความเชื่อถือจากชาวพิษณุโลกมานาน และ Manoi ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มา เติมเต็มพื้นที่และตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเด็กและครอบครัวได้เป็นอย่างดี ขอแสดงความยินดีกับทีมงาน Manoi สาขาท็อปแลนด์ พิษณุโลก ที่สามารถบริหารจัดการร้านได้อย่างเป็นระบบ รักษามาตรฐาน และเข้าใจความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ได้อย่างลึกซึ้ง คุณคือแรงบันดาลใจในการพัฒนาแบรนด์ Manoi ให้เติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับเจ้าของห้างหรือผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโมเดลในการขยายธุรกิจด้วยตนเอง กรณีของ Manoi สาขาท็อปแลนด์ พิษณุโลก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า หากมีวิสัยทัศน์ในการบริหารพื้นที่ เชิงกลยุทธ์ ร่วมกับการเลือกแบรนด์ที่มีมาตรฐาน ใส่ใจสุขภาพ และมีระบบสนับสนุนที่ดี ก็สามารถสร้างรายได้ เพิ่มคุณค่าให้กับพื้นที่ และเชื่อมต่อกับผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว #โมเดลการบริหารพื้นที่เชิงกลยุทธ์

สาขาศรีราชา พลังแห่งความตั้งใจของคุณส้ม – Manoi Top 10 Plus Selected  ท่ามกลางเมืองศรีราชาอันเต็มไปด้วยพลังของวัยเรียนและความคึกคักจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา หนึ่งในร้านชานมไข่มุกที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องก็คือ Manoi สาขาศรีราชา ซึ่งบริหารโดยคุณเมทินี วีระพัสดุ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม “คุณส้ม” คุณส้มเป็นพนักงานประจำของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และตัดสินใจเปิดแฟรนไชส์ Manoi ด้วยความตั้งใจจะมีรายได้เสริมที่มั่นคง ควบคู่ไปกับความใฝ่ฝันในการมีธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ด้วยสายตาแห่งโอกาส เธอเลือกโลเคชันร้านอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทำให้มีลูกค้าทั้งกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย แต่สิ่งที่ทำให้คุณส้มไม่ใช่เพียง “เจ้าของร้าน” ทั่วไป คือ ความใส่ใจในคุณภาพ มาตรฐาน และหัวใจของการบริการ แม้ในช่วงที่คุณส้มกำลังตั้งครรภ์ เธอยังคงบริหารจัดการร้านอย่างใกล้ชิด โดยให้ความสำคัญกับการอบรมพนักงานให้สามารถ “ชงเครื่องดื่มตามมาตรฐานเป๊ะทุกแก้ว” เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความมั่นใจได้ทุกครั้งที่มาซื้อ สิ่งนี้เองที่ทำให้ร้าน Manoi ของคุณส้ม ได้รับรางวัล Manoi Top 10 Plus Selected อย่างภาคภูมิ เพราะยังคงรักษามาตรฐานของรสชาติ วัตถุดิบ และความใส่ใจในบริการได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งไม่เพียงเป็นความสำเร็จส่วนตัว แต่ยังสะท้อนถึงระบบแฟรนไชส์ของ Manoi ที่มอบการดูแลและสนับสนุนอย่างจริงใจให้กับเจ้าของสาขา คุณส้มเลือกแบรนด์ Manoi ด้วยเหตุผลที่น่าชื่นชม “แบรนด์นี้มีความใส่ใจในสุขภาพ มีทางเลือกใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ไม่มีน้ำตาลไฮฟรุกโตส และไม่มีไขมันทรานส์” ซึ่งคุณส้มมองว่า “หากเราจะขายเครื่องดื่มให้คนอื่น เราควรเลือกสิ่งที่ดีต่อร่างกาย” คำพูดเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ คือหัวใจของแบรนด์ Manoi ที่ยึดมั่นในความยั่งยืน ทั้งต่อสุขภาพของผู้บริโภค และความมั่นคงทางรายได้ของแฟรนไชส์ซี เรื่องราวของคุณส้มจึงไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจเล็ก ๆ แต่เป็นภาพสะท้อนของคนทำงานประจำที่กล้าก้าวออกมาทำฝันให้เป็นจริง ผ่านการเลือกแบรนด์ที่ “ดูแลกันจริง” และ “ใส่ใจในทุกขั้นตอน” อย่าง Manoi เพราะเบื้องหลังทุกแก้วของ Manoi คือความตั้งใจของคนตัวเล็ก ๆ ที่อยากสร้างสิ่งดี ๆ ให้ยั่งยืนต่อไป

“จากร้านชานมในอำเภอเล็ก ๆ สู่ความสำเร็จ” Manoi ลำปลายมาศ ก้าวสู่ Top10 ได้ด้วยหัวใจเปี่ยมฝัน รู้จักกับคุณภัทร จากพนักงานประจำ…สู่เจ้าของคาเฟ่ในฝัน คุณภทร ศิริเอี่ยมแสง วัย 29 ปี (ภัทร) อดีตพนักงานประจำ ผู้ผันตัวมาช่วยบริหารธุรกิจร่วมกับทางบ้าน ทว่าคุณภัทรมีความฝันว่า อยากเปิดร้านคาเฟ่ ในอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเดินตามความฝันของตัวเอง โดยตั้งมีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องเป็นเครื่องดื่มที่เข้าถึงได้สำหรับกลุ่มนักเรียนและวัยรุ่นในพื้นที่ หลังจากค้นคว้าและศึกษาแบรนด์แฟรนไชส์ต่าง ๆ คุณภัทรจึงเลือก “มาโนอิ” เพราะเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของแบรนด์ และที่สำคัญสไตล์ร้านที่คลีน อบอุ่น โทนขาว-ครีม ตอบโจทย์กับการออกแบบร้านในฝันของคุณภัทรอย่างลงตัว บริการอย่างใส่ใจ แม้เป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อย จุดเด่นอีกอย่างของ มาโนอิ สาขานี้ คือการให้บริการแบบเป็นกันเอง คุณภัทรกล่าวว่า “ต้องบริการลูกค้าอย่างเอาใจใส่ ทักทาย และจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกค้าประจำให้ได้” ยกตัวอย่างการคอยถามถึงรสชาติ เช่น “หวานไปไหม” หรือ “รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง” แนวคิดนี้สะท้อนถึงความใส่ใจ ที่มากกว่าการเป็นแค่ร้านขายเครื่องดื่ม แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจ และทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้นเคย สนิทสนมกับพนักงานภายในร้าน และกลับมาอุดหนุนอีกครั้ง กลยุทธ์ 40 บาท ความคิดเล็ก ๆ สุดแพรวพราว ที่สร้างผลลัพธ์ใหญ่ แนวคิดการตลาดที่น่าสนใจจากร้านนี้ คือ “กลยุทธ์ 40 บาท” ที่เกิดจากการสังเกตพฤติกรรมลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียนที่มักใช้แบงก์ 20 สองใบ เพื่อซื้อเมนูเครื่องดื่มราคา 30 บาท แล้วต้องทอนด้วยเหรียญ 10 คุณภัทรจึงนำ “ตู้คีบของเล่น” มาเสริมภายในร้าน กำหนดราคาเล่นไว้ที่ 10 บาทพอดี กลายเป็นทั้งจุดสนุกสนาน และเครื่องมือคืนเงินทอนได้อย่างมีไหวพริบ เรียกได้ว่าเป็น “เกมสร้างเงินทอน” ที่ทั้งสร้างรายได้เพิ่ม และสร้างประสบการณ์ความสนุกสนานให้ลูกค้าไปพร้อมกัน Manoi Top10 Plus Selected เครื่องยืนยันความมุ่งมั่น  คุณภัทร กล่าวอย่างภาคภูมิ หลังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Manoi Top10 Plus Selected “รู้สึกดีใจมาก ถึงจะเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวเมือง สัญญาว่าจะพัฒนาต่อไป” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การันตีว่า คุณภาพ ความตั้งใจ และความใส่ใจ สามารถนำพาให้ร้านใด ๆ ก็ตาม ก้าวสู่ความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ไหนก็ตาม “ต้องมีแพสชั่น และเชื่อในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ” เป็นคำแนะนำสั้น ๆ จากคุณภัทร แต่ทรงพลังสำหรับใคร ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยหัวใจที่ใหญ่ Manoi สาขา ลำปลายมาศ จากแพสชั่นที่ไม่เคยคิดที่จะหยุดฝัน สู่เรื่องราวดี ๆ ของร้านชานมในอำเภอเล็ก ๆ ที่ส่งมอบความสุข และความอร่อยให้กับผู้คนอย่างไม่สิ้นสุด

ร้านชานมที่ส่งต่อโอกาสเรียนรู้ จากแม่ผู้ Support ความฝันของลูก เรื่องราวความน่ารัก อบอุ่น ที่เป็นแค่มากกว่าธุรกิจ ร้านชานมเล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่น ที่ไม่เพียงแค่เสิร์ฟเครื่องดื่มคุณภาพ แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้กับเด็กนักเรียนในท้องถิ่น ร้านนั้นคือ Manoi สาขาหน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษา นครราชสีมา ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน Manoi Top 10 Plus Selected ด้วยแนวคิดและบริการที่โดดเด่น จากหัวใจคนเป็นแม่ สู่การ Support ฝันของลูก ทำความรู้จัก คุณสิริลดา สายเพชร หรือ “คุณกุ้ง” คุณแม่ วัย 66 ปี อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้เกษียณแล้ว แต่ยังไม่หยุดสร้างสรรค์ หลังจากลูกสาว “คุณกลอย” ซึ่งทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ มีความฝันอยากเปิดร้านชานมเป็นของตัวเอง ความฝันนั้นจึงถูกถ่ายทอดมาถึงคุณแม่ผู้กล้ารับหน้าที่บริหารสาขานี้ ร้านชานม ที่เป็นมากกว่าร้านชานม สิ่งที่ทำให้ มาโนอิสาขานี้พิเศษกว่าสาขาอื่น คือการที่ร้านได้ทำ MOU ร่วมกับวิทยาลัยอาชีวศึกษา กลายเป็น “ร้านต้นแบบ” ให้กับการเรียนรู้ของนักศึกษา เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มาฝึกงาน ศึกษาดูงานเสมือนจริง สร้างประสบการณ์แบบมืออาชีพ คุณกุ้งมีความตั้งใจว่า อยากขยายแนวคิดนี้ไปยังวิทยาลัยอาชีวศึกษาในวิทยาเขตอื่น ๆ เพื่อให้ร้านชานมกลายเป็น “ร้านต้นแบบ” การเรียนรู้ที่เข้าถึงง่าย และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ บริการด้วยใจ และดูแลเหมือนลูกหลาน แนวทางการบริการของคุณกุ้ง คือ ร้านแห่งนี้ไม่เพียงเป็นที่ฝากท้องของวัยรุ่นและข้าราชการในย่านใกล้เคียง แต่ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ ที่มานั่งรอผู้ปกครองหรือพักผ่อนหลังเลิกเรียน พร้อมทั้งมีแอร์เย็นฉ่ำ และมุมให้นั่งพักสบาย ๆ นอกจากนี้ยัง อาหารทานเล่นอย่าง ซูชิ ไว้บริการลองท้องด้วย คุณกุ้งยังแอบกระซิบถึงเคล็ดลับการเอาใจลูกค้าว่า “บางครั้งก็มีแถมท็อปปิ้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ บ้าง” ความไว้ใจและเชื่อมั่นแบรนด์ ในมุมมองของคนเป็นแม่ จากคนเป็นแม่ และดูแลบริหารร้านที่เป็นความฝันของลูก โดยมีเด็ก ๆ เป็นฐานลูกค้าประจำ คุณกุ้งได้พูดชื่นชมลูกสาว “ดีใจแทนลูกสาว ที่เขาตัดสินใจเลือกแบรนด์ชานมมา ได้ถูกกับใจของตัวเอง” หลังได้รับคัดเลือกให้เป็น Manoi Top 10 Plus Selected และกล่าวชื่นชมถึงแบรนด์ “เป็นแบรนด์ที่เลือกแล้วไม่ผิดหวัง เพราะทำด้วยใจ ให้มั่นใจในตัวแบรนด์” ทั้งในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ รสชาติ ความมีมาตรฐาน ราคาจับต้องได้ รวมถึงการคำนึงถึงสุภาพของลูกค้า มองให้ไกล สู่อนาคตข้างหน้า แม้สาขานี้ จะมีการทำ MOU กับทางวิทยาลัยอาชีวศึกษาแล้ว  แต่ความหวังของคุณกุ้งยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เธอเล็งเห็นโอกาสในการขยายสาขาใหม่ในเส้นทางมอเตอร์เวย์ เพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศสามารถทำความรู้จัก และได้สัมผัสกับรสชาติของ “มาโนอิ” ได้มากขึ้น สมกับเป็นมุมมองของผู้ดูแลบริหารร้านจริง ๆ

MANOI Top 10 plus selected สาขาบ้านนาสาร จากใจของครูกรรณ (กรรณิการ์ ชาตรี) สู่ร้านต้นแบบของ Manoi ที่ทุกคนรัก ในอำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีร้านชาไข่มุกที่มากไปกว่าการขายเครื่องดื่ม นั่นคือ Manoi สาขานาสาร ร้านที่กลายเป็นจุดเช็คอินประจำอำเภอ ด้วยความลงตัวของรสชาติ บรรยากาศ และหัวใจการบริการจากทีมเล็กแต่หัวใจที่แข็งแกร่งของครูกัน คุณปอย และคุณโอ๋ จุดเริ่มต้นการรวมพลังของ Manoi บ้านนาสาร ครูกรรณเริ่มต้นร้านนี้ในปี 2564 ท่ามกลางความท้าทายภายหลังสถานการณ์โควิด-19 เธอทำทุกอย่างด้วยหัวใจ ทุ่มสุดตัว ตั้งแต่ออกแบบร้าน ชงชา เสิร์ฟเอง บริหารร้าน และเรียนรู้การตลาดท้องถิ่นด้วยตัวเอง จัดส่งถึงมือลูกค้า ออกบูธประจำอำเภอจนกลายเป็นที่รู้จักของทุกคน  กว่าจะสำเร็จ….ทุกวันคือการฝ่าฟันและไม่ยอมแพ้ต่อมาภายหลังคุณปอย (พี่สาว) และคุณโอ๋ ผู้มองเห็นโอกาสได้เข้ามาเติมเต็มจนกลายเป็นทีมที่แข็งแรงและลงตัวที่สุดทั้งสามแชร์ประสบการณ์และหน้าที่งาน Dream Team 3 ความต่าง ที่ลงตัว ความพิเศษของจุดแข็งที่ 3 พี่น้องที่แตกต่างกัน แต่เมื่อรวมพลัง จึงการเป็นความลงตัวที่น่าทึ่ง – ครูกรรณ: บริหารการตลาดและการสื่อสาร นำประสบการณ์มองภาพกว้างจัดการได้ตรง  เป้าหมาย– คุณปอย: บริหารระบบร้านและบริการลูกค้า ด้วยเทคนิครอยยิ้ม ทักทาย จดจำ นำเสิร์ฟ – คุณโอ๋: บาริสต้ามืออาชีพ ดูแลมาตรฐานรสชาติ ตั้งใจเสริฟทุกแก้วด้วยประสบการณ์จากการเป็นเชฟ อีกหนึ่งในเสน่ห์ของ Manoi นาสารคือตกแต่งในสไตล์มินิมอล เรียบง่าย แต่สะท้อนบุคลิกเจ้าของสาขาได้ดี พร้อมจัดธีมเทศกาลต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปเช็คอินสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ และยังได้รับรางวัล Top 10+ Selected จาก Manoi Thailand เป็นหนึ่งใน 13 สาขาต้นแบบทั่วประเทศ ความพยายาม สู่ความสำเร็จอันภาคภูมิใจ เรื่องราวของครูกรรณและทีมงานคือแรงบันดาลใจที่พิสูจน์ว่า ความสำเร็จเริ่มต้นจากความตั้งใจจริง และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ขอเชิญทุกคนพบกัน Manoi บ้านนาสารได้ที่Manoi-มาโนอิ (สาขาบ้านนาสาร)   📍 ที่ตั้ง: ร้านอยู่ทางเข้าตลาดสดเมืองนาสารก่อนถึงคิวรถตู้ 🚌  ☎️ 098-852-2151

Manoi สาขาเหนือคลอง กระบี่ “เพราะคนสำคัญของครู… ควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ” จุดเริ่มต้นจากครูผู้ให้ ครูฤทธิ์ หรือ คุณพลภูมิ เชื้อสง่า ไม่ได้เริ่มต้นจากนักธุรกิจ แต่จากบทบาทของ “ครู” ที่เห็นว่าเด็กนักเรียนในพื้นที่ยังเข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม เขาจึงเปิดการสอนพิเศษในบ้านตัวเอง เพื่อเป็นแหล่งความรู้ที่ใกล้บ้านเด็ก ๆ และลดภาระค่าเดินทางสร้างโอกาสในการเข้าถึงวิชาการ เมื่อเด็ก ๆ มานั่งเรียนอย่างตั้งใจ พักเบรกก็ต้องการของว่างและเครื่องดื่ม ครูฤทธิ์จึงคิดว่า…“นักเรียนของเราคือคนพิเศษ ดูแลแบบพิเศษแล้ว เครื่องดื่มที่เขาควรดื่มก็ควรเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณภาพด้วย ที่สำคัญราคาเด็ก ๆ ในชุมชนต้องจับต้องได้จริง” จากแนวคิดสู่แบรนด์ที่ใช่ ในกระบวนการค้นหาแบรนด์ที่ตรงกับความตั้งใจ ครูฤทธิ์ได้พบกับ MANOI Thailand และรู้สึกเชื่อมโยงทันที เพราะเป็นแบรนด์ที่คำนึงถึงสุขภาพเพราะตนเองก็ดูแลสุขภาพเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าแบรนด์เปิดโอกาสให้สาขานำสินค้า ของฝากจากชุมชนมาจำหน่ายได้ ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจของคุณครู ร้าน MANOI ของครูฤทธิ์จึงกลายเป็นทั้งร้านเครื่องดื่ม และพื้นที่สร้างอาชีพให้ชุมชนผ่านสินค้าท้องถิ่น เช่น มะม่วงหิมพานต์ กล้วยและทุเรียนแปรรูป เบเกอรี่ที่เด็ก ๆ และพนักงานทำขึ้นมาฝากขาย บริการที่เหนือความคาดหมาย Manoi สาขากระบี่เหนือคลอง ใส่ใจทั้งคุณภาพของเครื่องดื่มและการบริการ– พนักงานให้คำแนะนำเมนูที่เหมาะกับลูกค้าได้ เช่น สำหรับผู้ตั้งครรภ์ หรือผู้รักสุขภาพ – เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าคิดไว้ในใจได้ – สร้างความประทับใจด้วยการดูแลลูกค้า เช่น เหตุการณ์วัยรุ่นทำแก้วตกหลังจากดื่มไปแล้ว ครูฤทธิ์ทำให้ใหม่ทันทีโดยไม่คิดเงินเพิ่ม ไม่มีการยิงแอดโฆษณา มีเพียง Word of Mouth จากใจถึงใจ การบริหารที่เต็มไปด้วยไอเดีย ครูฤทธิ์มีวิธีทดสอบมาตรฐานร้านด้วยการสั่งผ่าน Delivery โดยเปลี่ยนชื่อในระบบการสั่งและเปลี่ยนสถานที่จัดส่งไปเรื่อย ๆ  เพื่อประเมินมาตรฐานสูตรการชงและการบริการของพนักงานอย่างแท้จริง ความประทับใจที่มีต่อแบรนด์ Manoi “สิ่งที่ผมรักในแบรนด์นี้คือคุณภาพของวัตถุดิบทุกประเภท และทีมงานที่เข้าถึงง่าย ให้คำปรึกษาได้เสมอ รู้สึกเหมือนเราทำร้านอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกัน” จากครูสู่ Top 10+ ตัวจริง MANOI สาขากระบี่เหนือคลอง ได้รับรางวัล Top 10 Plus Selected หนึ่งใน 13 สาขาต้นแบบทั่วประเทศ ที่ไม่เพียงแค่ยอดขายดี แต่มีคุณภาพในทุกมิติ ตั้งแต่ทัศนคติ การบริหาร การบริการ และบทบาทในชุมชน หากคุณเชื่อในการทำธุรกิจที่มีหัวใจ MANOI คือแบรนด์ที่เชื่อมั่นใน “คุณภาพ + ความสัมพันธ์” หากคุณอยากเป็นเจ้าของธุรกิจที่มากกว่าการขาย — ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงชุมชนให้ดีขึ้น

เปิดตัวสาขาแรก “Manoi Top 10 Plus Selected” สาขาสุขาภิบาล 2มาตรฐานเยี่ยม จุดชิมพิเศษของแฟรนไชส์มาโนอิ แบรนด์ชานมไข่มุกมาแรง “มาโนอิ (MANOI)” เปิดตัวโครงการพิเศษ Manoi Top 10 Plus Selected เพื่อคัดเลือกสาขาที่มีมาตรฐานโดดเด่น และเป็นต้นแบบแฟรนไชส์ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ โดย สาขาสุขาภิบาล 2 ได้รับเกียรติให้เป็น สาขาแรกที่ผ่านเกณฑ์ทั้ง 7 ข้อ อย่างเป็นทางการ 🤎กุญแจไขความสำเร็จ สู่สัญลักษณ์ “Top 10 Plus Selected” สาขาที่ได้รับการคัดเลือกในโครงการนี้ จะต้องผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานของแบรนด์มาโนอิ ครอบคลุม 7 ด้านหลัก ได้แก่ 1. การบริหารจัดการและทัศนคติ 2. มาตรฐานรสชาติ 3. คุณภาพของพนักงาน 4. มาตรฐานวัตถุดิบ 5. ความพร้อมของอุปกรณ์ 6. ความสะอาดของร้าน 7. การตกแต่งร้านให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ และที่สำคัญ สาขายังถูกแต่งตั้งให้เป็น จุดชิมพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่ต้องเดินทางไกลถึงกรุงเทพฯ 🤎รู้จัก “คุณเผ่า” ผู้อยู่เบื้องหลังสาขาสุขาภิบาล 2 คุณสรายุทธ ชัยทอง (เผ่า) วัย 38 ปี เจ้าของร้านสาขาสุขาภิบาล 2 มีอาชีพหลักเป็น ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน และมองหาอาชีพเสริมเพื่อเติมเต็มความฝัน จนได้พบกับแบรนด์ “มาโนอิ” ที่ทำให้เขาหลงรักตั้งแต่คำแรกที่ชิม “รสชาติอร่อย ราคาก็จับต้องได้ วัตถุดิบมีคุณภาพ ตัดสินใจเร็วมากเลยครับ ชิมปุ๊บก็ตัดสินใจเลย” แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ทำร้านเครื่องดื่มมาก่อน แต่ด้วยความหลงใหลในผลิตภัณฑ์ และความกล้าเริ่มต้นท้าทายสิ่งใหม่ ทำให้คุณเผ่าสามารถบริหารร้านได้อย่างมีคุณภาพ จนผ่านการประเมินมาตรฐานอย่างครบถ้วน 🤎การออกแบบ ที่สร้างคุณค่าจากเจ้าของร้าน สู่ประสบการณ์ลูกค้า จุดเด่นของร้าน “มาโนอิ สุขาภิบาล 2” ไม่ได้อยู่แค่ในรสชาติหรือบริการ แต่ยังสะท้อน “ตัวตน” ของเจ้าของสาขา ทางแบรนด์เปิดโอกาสให้ออกแบบร้านได้เอง ซึ่งตรงกับสายงานของคุณเผ่าพอดี ร้านจึงสะท้อนเอกลักษณ์ ความมีตัวต้น ผ่านการออกแบบร้านด้วยฝีมือของคุณเผ่าเอง ในทุก ๆ ดีเทล “ทางแบรนด์เปิดโอกาส ให้เราเต็มที่เลย ในการออกแบบ เราเลยรู้สึกภูมิใจ ดีใจมากที่ได้ทำร้านเอง ทุกครั้งที่ได้ก้าวเข้ามา เป็นร้านที่ทำให้ทุกคนมีความสุขแน่นอนครับ” การออกแบบภายในร้าน จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสร้าง “คุณค่า” ทั้งในเชิงธุรกิจและจิตใจของเจ้าของร้าน สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น สบายตา และชวนให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง 🤎ทัศนคติ และมุมมองของผู้ประกอบการแฟรนไชส์รุ่นใหม่ เมื่อถูกถามถึงแนวทางการรักษามาตรฐาน คุณเผ่าเน้นย้ำเสมอว่า “ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า รักษาคุณภาพให้เหมือนเดิม และใส่ใจลูกค้าอย่างเต็มที่” นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายว่า หากธุรกิจเติบโตดี อาจมีการ ขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 2-3 สาขา และอยากส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นธุรกิจ ว่า… “คิดแล้ว… ลงมือทำเลยครับ อย่ามัวรอ!” แบรนด์มาโนอิให้ความสำคัญกับการ “เปิดพื้นที่ให้เจ้าของสาขา แสดงออกอย่างมีเอกลักษณ์” ภายใต้แนวทางแบรนด์แบบ “ซุ้มโค้ง ขาว คลีน มินิมอล” ซึ่งคุณเผ่าสามารถนำจุดแข็งด้านงานออกแบบมาต่อยอด ให้ร้านมีความเป็นมืออาชีพและสอดคล้องกับแบรนด์ได้อย่างลงตัว