บทความ

Rising Star แฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด

Rising Star แฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด Thailand Franchise & Business Opportunities (TFBO 2024) งานแสดงแฟรนไชส์ที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จัดขั้นเป็นครั้งที่ 20 มีมากกว่า 170 แบรนด์ 9 ประเทศ 12 กลุ่มธุรกิจ อาทิ อาหารเครื่องดื่ม กาแฟ ชา ชานมไข่มุก เบเกอรี่ ไอศกรีม ของหวาน ความงาม สุขภาพ การศึกษา เครื่องหยอดเหรียญ ล้างรถ ขนส่ง สะดวกซัก เป็นต้น ณ ไบเทคบางนา ในวันที่ 11-14 กรกฎาคม 2567 “มาโนอิ” ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในการจัดแสดงสินค้าในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 4 วัน ได้นำเมนูยอดขายดีจากทางแบรนด์ เช่น ชานมไต้หวัน โกโก้พรีเมียม ชามะลิ ไทยเดิม ชาเขียวหอมนม ไปให้ผู้เข้าร่วมงาน พันธมิตร ผู้เกี่ยวข้อง ได้สัมผัส ลิ้มรสชาติ เปิดประสบการณ์กับแบรนด์น้องใหม่ในท้องตลาด ที่สำคัญ มีการเปิดตัว Package “MANOI Healthy Drink” กลุ่มเมนูพรีเมียมที่ได้รับเครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ และเมนู 0 Kcal สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาชาเพื่อสุขภาพ ราคาที่เข้าถึงได้ มากไปกว่านั้น ได้นำ Kombucha ชาหมักเพื่อสุขภาพ ไปเปิดตลาดในครั้งนี้ด้วย จนได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่า แบรนด์ชา ราคาเข้าถึงได้ ใส่ใจเรื่องสุขภาพ บรรยากาศภายในงาน MANOI เตรียมรางวัลไปแจกอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็น ผ้าห่มลาย Limited ชาร้อน Organic 3in1 ชาร้อนชุดมณีสยาม และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งกิจกรรมร่วมสนุกจากผู้เข้าร่วมงาน ว่าที่แฟรนไชส์ซีที่จองสิทธิ์ในงาน พี่ ๆ ทีมงานผู้จัด แม้กระทั่งคู่ค้าที่ร่วมออกงานในครั้งนี้อีกด้วย เราตั้งใจนำสินค้าดี มีคุณภาพ ราคาเข้าถึงได้ ไปใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้น รางวัลแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด Franchise Popular Vote “Rising Star” เราดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมาก จากความตั้งใจในครั้งนี้ ความสนุก ความสุข การได้มารู้จักกัน ตลอดระยะเวลา 4 วัน ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน เปิดใจต้อนรับน้องกระต่ายมาหน่อยในครั้งนี้ MANOI Share Your Happiness เราจะเติบโตไปด้วยกัน เพราะความยั่งยืนในการทำธุรกิจคือเป้าหมายของเรา #RisingStar #TFBO #TFBO2024 #Franchise #แฟรนไชส์ #มาโนอิ

7 เกณฑ์การประเมิน สู่การยกระดับธุรกิจมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์

7 เกณฑ์การประเมิน สู่การยกระดับธุรกิจมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้กำหนดจัดกิจกรรม “ยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard)” ประจำปี 2567 เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ผ่านการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ส่งเสริมให้ธุรกิจมีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล มีความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภคและผู้ซื้อแฟรนไชส์ (Franchisee) และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า แฟรนไชส์ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการบ่มเพาะองค์ความรู้และทักษะการสร้างมาตรฐานของธุรกิจ รวมถึงจะมีผู้เชี่ยวชาญประเมินวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละธุรกิจ ที่สำคัญ ยังมีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก ณ สถานประกอบการเป็นรายธุรกิจ และเสริมในเรื่องการศึกษาดูงานธุรกิจที่เป็นต้นแบบที่ดีDBD Franchise Standard เครื่องหมายที่รับรองความมีมาตรฐานของการบริหารแฟรนส์ไชส์ โดยมีเกณฑ์การประเมินมาตรฐานคุณภาพ (Total Quality Franchise Management : TQFM) ทั้ง 7 หมวด ดังนี้1.การนำองค์กร (Leadership) 2.กลยุทธ์ (Strategy) 3.ลูกค้าและแฟรนไชส์ซี (Customer) 4.การวัด การวิเคราะห์และการจัดการความรู้ (Measuremtnt, Analysis and Knowledge Manegement) 5.บุคลากร (Workforce) 6.หมวดการปฏิบัติการ (Operations) 7.หมวดผลลัพธ์ (Result)ทั้งนี้ สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วย 1. จดทะเบียนนิติบุคคล 2. ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ไม่น้อยกว่า 3 ปี 3. มีแฟรนไชส์ซีอย่างน้อย 2 สาขา และสาขาของตนเองไม่น้อยกว่า 1 สาขา 4. จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (หรืออยู่ระหว่างกระบวนการยื่น) และ 5. มีความมุ่งมั่นตั้งใจและสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดโครงการ กิจกรรม Franchise Standard เป็นการยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ให้ผ่านมาตรฐานตามที่กรมฯ กำหนด โดยธุรกิจต้องผ่านกระบวนการพัฒนา 6 ขั้นตอนคือ 1) สร้างองค์ความรู้ด้านคุณภาพมาตรฐานแฟรนไชส์ 2) มีทีมที่ปรึกษา ลงพื้นที่ ณ สถานประกอบการ เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพของแต่ละธุรกิจที่จะต้องได้รับการพัฒนาในแต่ละด้านให้ตรงจุด และให้คำปรึกษา (Coaching) เชิงลึก 3) เชื่อมโยงเครือข่ายและต่อยอดธุรกิจระหว่างผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมกิจกรรม 4) การศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบการของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐาน (Best Practice) 5) ตรวจประเมินธุรกิจแฟรนไชส์ตามเกณฑ์มาตรฐาน ณ สถานประกอบการ และ 6) การนำธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการยกระดับไปร่วมงานแสดงสินค้าต่าง ๆ เพื่อนำเสนอศักยภาพของธุรกิจ (Business Showcase) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นไปอย่างเข้มข้นตลอดหลักสูตรเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการพัฒนาแฟรนไชส์ไทยให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานสากลและได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติในอนาคต กิจกรรม Franchise Standard ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 16 ปี มีธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่เข้าร่วมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพฯ แล้วทั้งสิ้น 545 ราย “มาโนอิ” คือหนึ่งในรางวัลที่ได้รับตามเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์เพื่อคู่ค้า ลูกค้า สาขา และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่าน อย่างตั้งมั่น ตั้งใจ เพื่อเป็นผู้ให้บริการด้านการสร้างโอกาสทางอาชีพสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการยอมรับในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรภายใต้ บริษัท ลูกคิดดี จำกัด           #รางวัลมาตรฐานแฟรนไชส์ #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์ #DBD #FranchiseStandard

มาโนอิ รับรางวัล มาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ไทย

มาโนอิ รับรางวัล มาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกระทรวงพาณิชย์ (DBD) มอบรางวัล DBD Franchise Standard “แฟรนไชส์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์และได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานคุณภาพ”  ในโครงการมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ไทย Thailand Franchise Quality Award 2024 วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุม 1 ศตวรรษ ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามอบประกาศนียบัตรให้กับ 66 ผู้ประกอบการที่ผ่านการพัฒนาจาก 2 หลักสูตรแฟรนไชส์อย่างเข้มข้นประจำปี 2567 ทั้งหลักสูตรสร้างธุรกิจรายใหม่เข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ (B2B Franchise) รุ่นที่ 27 จำนวน 33 ราย และการยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (DBD Franchise Standard) จำนวน 33 ราย ทั้ง 2 หลักสูตรจะช่วยขยายช่องทางการตลาดให้กับธุรกิจไทยผ่านระบบแฟรนไชส์ และสร้างมาตรฐานธุรกิจให้แฟรนไชส์ยกระดับได้บนเกณฑ์มาตรฐานสากล ทั้งนี้ แฟรนไชส์ที่ผ่านหลักสูตร Franchise Standard จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจมากมาย อาทิ ใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมรับเครื่องหมาย Franchise Standard เพื่อการันตีคุณภาพของธุรกิจแฟรนไชส์นาน 2 ปี การศึกษาดูงานจากธุรกิจแฟรนไชส์ต้นแบบที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรของกรมฯ และการประชาสัมพันธ์รายชื่อธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานฯ บนเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า https://franchise.dbd.go.th/th เป็นต้น “MANOI” มาโนอิ ขอขอบคุณที่ผู้มีส่วนเกี่ยวของทุกท่าน ทั้งคู่ค้า ลูกค้า สาขา ที่ให้โอกาสน้องกระต่ายได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอาชีพ เราจะมุ่งมั่น พัฒนา เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจว่าเราจะดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สานต่อสร้างโอกาสทางอาชีพ กับความสำเร็จและความภูมิใจในครั้งนี้ต่อไป ขอบคุณทุกท่านจากใจจริง (จากทีมงาน มาโนอิ) #รางวัลมาตรฐานแฟรนไชส์ #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์ #DBD #FranchiseStandard

“มาโนอิ” แฟรนไชส์เพื่อสุขภาพที่แท้จริง

เครื่องหมายทางเลือกเพื่อสุขภาพ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์เพื่อสุขภาพที่แท้จริง การเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ของมาโนอินี่ไม่ใช่จะได้มาแค่เราพูดกัน แต่การันตีด้วยเครื่องหมาย “ทางเลือกเพื่อสุขภาพ” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของภาครัฐ ที่มีหลายองค์กรให้การสนับสนุนทั้ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมเพื่อสุขภาพ (สสส.) , มูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ (ม.ส.ภ.) , สำนักคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  มีเป้าหมายในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาล โซเดียม และไขมัน ซึ่ง เมนูชามัทฉะฮันนี่เลมอนสูตรไลท์ (Light matcha honey lemon) ได้การรับรองว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่แท้จริง และยังมีอีกหลายเมนูของมาโนอิที่เป็นเมนูทางเลือกเพื่อสุขภาพแท้จริงเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าที่ดีต่อความรู้สึก และดีต่อสุขภาพด้วย  

ชานมไข่มุกของ “มาโนอิ” ดีต่อสุขภาพยังไง?

ถ้าใครบอกว่าชานมก็เหมือนชานมกินที่ไหนก็เหมือนๆกันแสดงว่าคุณยังไม่รู้จัก “มาโนอิ” ดีพอ เพราะคอนเซ็ปต์หลักของมาโนอิในการทำธุรกิจคือ “เครื่องดื่มที่ไม่ทำร้ายสุขภาพ” และพัฒนาสูตรเครื่องดื่มที่ใช้ความหวานจากธรรมชาติที่ช่วยเผาผลาญได้จริง มาใช้ทดแทนน้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป ซึ่งเป็นน้ำตาลสังเคราะห์ที่ก่อให้เกิดโรคได้หลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไขมันพอกตับ รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบไม่มีไขมันทรานส์ ไม่ใส่สารกันบูด ส่วนชาและไข่มุกก็ต้มสดใหม่วันต่อวันอีกด้วย โดยมีเมนูรวมทั้งสิ้นมากกว่า 63 เมนู ครบจบทุกความต้องการ มาครบทั้งกลุ่มชานมไต้หวัน&บราวน์ชูการ์ , กลุ่มนมสด กลุ่มชาใสผลไม้ , กลุ่มโซดา , กลุ่มมัทฉะแท้, กลุ่มชาไทย เป็นต้นและยังมีท็อปปิ้งเลือกอีกเยอะมาก ยังไม่นับรวมเมนูที่มาตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก นอกจากโดดเด่นในเรื่องเมนูสุขภาพที่ชัดเจน การจัดร้านแต่งร้านของมาโนอิก็สุดเจ๋ง ไม่แพ้ใคร!  ถ้าใครเคยไปใช้บริการจะคุ้นตากับ ซุ้มโค้งสีขาว คลีน สไตล์แบบ Minimal ภายในร้านก็จัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว มีความน่ารัก ๆ และกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ที่ทำให้ลูกค้าประทับใจได้เป็นอย่างดี และรูปแบบนี้ก็คือคอนเซปต์หลักที่มาโนอิพร้อมสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขาทั่วประเทศ

MANOI Franchisee Award 2023

MANOI Franchisee Award 2023 รางวัลสาขาดีเด่นของมาโนอิ นอกจากตอบโจทย์เทรนด์คนรักสุขภาพได้อย่างดี การลงทุนกับมาโนอิยังสามารถเริ่มต้นได้ง่าย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถออกแบบด้วยตนเองและยังนำขนมหรืออาหารอื่นมาขายควบคู่กันกับเครื่องดื่มได้  ทั้งนี้ มาโนอิ ยังมีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบการสั่งซื้อสินค้า ระบบการเคลมกรณีสินค้าเสียหาย มีทีมบริการหลังการขายคอยซัพพอร์ทและให้คำปรึกษาด้านการบริหารร้าน  ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ยอดขาย การบริหารพนักงาน การลงระบบ Delivery การวางแผนภาษี ไปจนถึงให้เครื่องมือสำหรับผลิตสื่อโฆษณา พร้อมการฝึกอบรมให้อย่างดีรวมถึงมีการพัฒนาเมนูใหม่ให้อย่างต่อเนื่องด้วย และเพื่อให้ทุกสาขาของมาโนอิที่มีอยู่ทั่วประเทศมีมาตรฐานคุณภาพเดียวกัน  จึงได้มีการจัดโครงการ MANOI Franchisee Award 2023 เพื่อยกระดับและสร้างมาตรฐานของแบรนด์ทั่วประเทศ โดยมีเงื่อนไขที่เข้าเกณฑ์ได้รับรางวัลคือ เกณฑ์ กลุ่มที่ 1 ด้านมาตรฐานวัตถุดิบ มาตรฐานเครื่องดื่มถูกต้องตามสูตรของมาโนอิ เกณฑ์ กลุ่มที่ 2 ด้านความสะอาดของวัสดุ อุปกรณ์และ บรรยากาศภายในร้าน เกณฑ์ กลุ่มที่ 3 ด้านการดำเนินธุรกิจอย่างมีกำไรต่อเนื่อง เกณฑ์ กลุ่มที่ 4 ด้านทัศนคติและวิสัยทัศน์ของเจ้าของธุรกิจที่สอดคล้องกับค่านิยมหลักของมาโนอิ  โดยสาขาที่ได้รางวัล MANOI Franchisee Award 2023 ได้แก่ มาโนอิ สาขา ปราณบุรี  มาโนอิ สาขา วชิรพยาบาล สวนอ้อย  มาโนอิ สาขา รามคำแหง 164  มาโนอิ สาขา คลองเปรมฯ มาโนอิ สาขา ปราณบุรี มาโนอิ สาขา วชิรพยาบาล สวนอ้อย มาโนอิ สาขา รามคำแหง 164 มาโนอิ สาขา คลองเปรมฯ

มาโนอิ “ยืนหนึ่ง” ชานมไข่มุกเพื่อสุขภาพ

มาโนอิ “ยืนหนึ่ง” ชานมไข่มุกเพื่อสุขภาพ มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เทรนด์สุขภาพตอนนี้มาแรงมากผลสำรวจชี้ชัดว่าคนไทยกว่า 54% นิยมการทานอาหารเพื่อสุขภาพควบคู่กับการออกกำลังกาย แต่ถ้าวิเคราะห์เฉพาะเรื่องพฤติกรรมการกินของคนไทยในปี 2567 จะพบว่า คนไทย 1 ใน 4 กำลังควบคุมอาหารและ 65% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนอีก 41% ใส่ใจในเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้าที่ต้องดีต่อสุขภาพเท่านั้น และแน่นอนว่าหากพูดถึง “ธุรกิจชานมไข่มุก” ที่บางคนบอกว่าย้อนแย้งกับเรื่องสุขภาพเพราะมีไขมัน มีน้ำตาล ทานแล้วเสี่ยงเป็นโรคอ้วนและอื่นๆ ดังนั้นในแง่มุมของคนที่อยากลงทุนจึงควรโฟกัสแบรนด์ที่ “เน้นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ” ซึ่ง “มาโนอิ” เขายืนหนึ่งเรื่องนี้มาโดยตลอดและตอนนี้ก็มีสาขาทั่วประเทศกว่า 164 แห่ง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขยายสาขาได้มากขึ้นเรื่อยๆ 

ก้าวแรกของแฟรนไชส์

ก้าวแรกของแฟรนไชส์ จากความชอบ…มาสู่ธุรกิจ MANOI เปิดสาขาแรกที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อปี 2561 กับเงินทุน 1 แสนบาท หลังจากลูกค้าให้การตอบรับอย่างคับคั่ง และมีผู้ขอซื้อแฟรนไชส์ จึงเข้าไปศึกษาการสร้างระบบแฟรนไชส์ พร้อมใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ ป่าล้อมเมือง เป็นที่รู้จักในละแวกใกล้เคียงแบบปากต่อปาก จนนำมาสู่การเข้าระบบแฟรนไชส์แบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งขยายจนเกินไป เพราะเจ้าของแบรนด์เน้นความยั่งยืนต้องการพูดคุยและดูแลเฟรนไชส์ซีได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ไม่ใช่แบรนด์ที่ขายทิ้ง ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วทั้งสิ้น 195 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ มี.ค. 2567) และมาโนอิพร้อมแล้วสำหรับการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ ในแง่จุดเด่นของการทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายเนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง เจ้าของร้านสามารถออกแบบด้วยตนเองภายใต้คอนเซปต์ขาวคลีน มินิมอล มีซุ้มโค้ง และยังนำขนมหรืออาหารอื่นมาขายควบคู่กันกับเครื่องดื่มได้ ทั้ง MANOI ยังมีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบการสั่งซื้อสินค้า ระบบการเคลมกรณีสินค้าเสียหาย มีทีมบริการหลังการขายคอยซัพพอร์ทและให้คำปรึกษาด้านการบริหารร้าน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ยอดขาย การบริหารพนักงาน การลงระบบ Delivery การวางแผนภาษี ไปจนถึงให้เครื่องมือสำหรับผลิตสื่อโฆษณา พร้อมการฝึกอบรมให้รอบด้านผ่านการฝึกฝนในสถานที่ขายจริงจนกว่าจะชำนาญ และอัพเดทเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีเมนูรวมทั้งสิ้นมากกว่า 63 เมนู แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ ชานมไต้หวัน นมสด น้ำผลไม้ผสมโซดา ชาผลไม้ ชาไทย และมัทฉะแท้จากประเทศญี่ปุ่น ซิกเนเจอร์เมนู คือ ชานมไต้หวัน โกโก้พรีเมียม และสตรอเบอร์รีคุกกี้ครีม&โกโก้พรีเมียมคุกกี้ครีม อีกความพิเศษที่ทำให้ MANOI ขยายตลาดได้อย่างรวดเร็วคือ ราคาขายปลีกที่เริ่มต้นเพียงแก้วละ 25 บาท จนถึง 64 บาท กำไรต่อแก้วสูงถึง 50% แต่ยังคงความคุ้มค่า เนื่องจากวัตถุดิบที่เสาะแสวงหามาจากต้นน้ำ ได้ถูกผสมผสานกันอย่างลงตัวได้รสชาติชานมไต้หวันที่ถูกปากคนไทย เช่น ใบชาที่ผ่านกระบวนการบ่มตามกรรมวิธีจากประเทศไต้หวัน ไข่มุกที่ใช้มันสัมปะหลังสดของไทยผสานกับเครื่องปรุงของไต้หวัน ผงมัทฉะจากยอดชาเขียวแท้ 100% นำเข้ามาจากเมืองนิชิโอะ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงท็อปปิ้งอื่น ๆ อย่าง บุกผลไม้ บุกบราวน์ชูก้า บุกแคลลอรี่ต่ำ ไข่มุกป๊อปโยเกิร์ต และเนื้อว่านหางจระเข้ที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

จุดเริ่ม MANOI (มาโนอิ)

ชานมหอมหวานเผาผลาญได้จริง MANOI (มาโนอิ) เกิดจากการที่เจ้าของแบรนด์เป็นคนใส่ใจดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ยังชื่นชอบดื่มเครื่องดื่มหวานเย็นชื่นใจเพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนชานมไข่มุกจึงเป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดเจ้าของแบรนด์ จึงพยายามคิดค้นสูตรที่อร่อย เข้มข้น ในขณะเดียวกันเมื่อกินแล้วต้องไม่รู้สึกผิดต่อตัวเอง คือไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเริ่มต้นศึกษาวัตถุดิบต่าง ๆ ที่นำมาใช้ปรุง พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากมาย จึงตัดสินใจพัฒนาการใช้ความหวานจากธรรมชาติที่ช่วยเผาผลาญได้จริง มาใช้ทดแทนน้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป หรือที่เรียกว่าน้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดฟรุกโตส ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั่ว ๆ ไป นิยมใช้เพราะไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป (High Fructose Corn Syrup (HFCS)) เป็นน้ำตาลสังเคราะห์ ที่ถูกเรียกว่า น้ำตาลเทียม หรือน้ำตาลอุตสาหกรรม เหตุที่คนนิยมใช้เพราะให้ความหวานมากว่าน้ำตาลทรายถึง 6 เท่า ราคาถูกกว่า ซึ่งเมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลตัวนี้ไปเผาพลาญเป็นพลังงานได้จริง แม้ว่าเรากินแล้วจะออกกำลังกายมากเท่าไรก็ตาม ดังนั้นก็สะสมจะกลายเป็นโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน ไขมันพอกตับ นำมาซึ่งหัวใจต้องทำงานหนักเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตัน นอกจากเรื่องของความหวานที่พิถีพิถันเป็นพิเศษแล้ว เจ้าของแบรนด์ยังมีความใส่ใจในรายละเอียดของใบชาแต่ละชนิดที่นำปรุงในทุก ๆ เมนู รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่ใส่สารกันบูด ไข่มุกต้มใหม่สดทุกวัน จึงเป็นที่มาของคำว่า “มาโนอิ ชานมหอมหวาน เผาผลาญได้จริง”